Home > k-drama > มองต่างมุมกับบทสรุปของ 49 Days

มองต่างมุมกับบทสรุปของ 49 Days

เชื่อว่าหลายต่อหลายคนที่ติดตามชมซีรีส์เรื่อง 49 Days มาถึงตอนอวสาน คงกำลังตีอกชกหัวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนจบ แน่นอนว่าตอนแรกเจ้าของบล็อกก็อยู่ในการอึ้งสนิทไม่ต่างกัน อยากจะเอาแตงโมไปปาหน้าบ้านคนเขียนบทซัก 4 เข่ง แต่หลังจากทำใจและรับชมตอนจบอย่างเปิดใจให้กว้างแล้ว ยอมรับว่าสิ่งที่ได้กลับคืนมามันเต็มอิ่มกว่าการจบแบบที่ทุกคนอยากให้จบเสียอีก [คำเตือน ข้อความต่อจากนี้อาจทำให้ผู้ที่ยังไม่ได้ชมเสียอรรถรสในการชม ฉะนั้นขอเตือนว่าใครยังดู 49 Days ไม่จบ อย่าคลิก!!!]

หลังจากได้อ่านถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนจบ เคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าคนเขียนบท “กล้า” หรือ “ซาดิสต์” กันแน่ กล้าในแง่ที่ว่ากล้าที่จะเลือกเส้นทางจบให้กับจีฮยอนแบบนี้เพื่อตอกย้ำข้อความและคติที่ละครต้องการสื่อ หรือว่าซาดิสต์ที่เลือกเส้นทางอันโหดร้ายเช่นนี้ให้กับจีฮยอนเพียงเพื่อต้องการสร้างความเป็นดราม่าให้กับตอนจบของละคร นั่นคือความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นก่อนได้ดูละครแบบเต็มๆ

แต่เมื่อได้ดูด้วยตาตัวเองแล้ว ฝนให้คำตอบกับตัวเองได้ไม่ยากเลย ในความคิดฝน คุณโซฮยอนคยอง นักเขียนบท (ถ้าใครสงสัยว่าเธอเคยเขียนเรื่องอะไรมาบ้าง สองเรื่องก่อนหน้านี้คือ Brilliant Legacy และ Prosecutor Princess) กล้าและเก่งมาก กล้าที่จะไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ ยึดถือข้อความที่ตัวเองต้องการถ่ายทอดผ่านการเสียชีวิตของจีฮยอนเอาไว้โดยไม่เปลี่ยนตอนจบเพื่อเอาใจคนหมู่มากโดยไม่เกรงกลัวว่าเธออาจจะโดนแฟนละครผู้ไม่หวังดีบางคนคิดอยากปาแตงโม และเก่งในการสร้างเรื่องราวให้เดินหักมุมเลี้ยวโค้งไปมาจนคนดูแทบจะปรับอารมณ์ตามไม่ทัน

การตายของจีฮยอนในตอนจบ มองผาดแรกเหมือนคนเขียนบทใจร้ายมาก แรกเริ่มเดิมทีตอนที่ได้อ่านเรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้ คนจำนวนไม่น้อยคงคิดว่า เฮอะ รู้อยู่แล้วละว่ามันจะเป็นยังไงจบยังไง ก็นางเอกก็ต้องได้น้ำตาครบสามหยด ฟื้นขึ้นมา ปรับความเข้าใจกับคนรักได้แล้วก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข Happily Ever After ตามแบบเทพนิยายแฟนตาซีทั่วไปไงล่ะ พอดูไป 10 กว่าตอน เอาละสิ นางเอกจะได้น้ำตาครบ 3 หยดมั้ยเป็นคำถามผุดขึ้นมาในความคิดของคนดูอย่างเราๆ ผ่านมาถึงตอน 18 ดีใจมากที่จีฮยอนได้น้ำตาครบ แต่จบตอน 19 เฮ้ย เวรละ จีฮยอนจะตาย ความรู้สึกตอนนั้นคงเหมือนกับที่ทุกคนรู้สึก คือ ไม่จริงมั้ง มันไม่แฟร์นะ เธอสู้อุตส่าห์ฝ่าฟันการเดินทางทั้ง 49 วัน (จริงๆ 47 วันเพราะโดนทำโทษไป 2 วัน) มาได้สำเร็จเพียงเพื่อจะมาตายอีกครั้งในอีก 6 วันข้างหน้างั้นหรือ

แต่ถ้าเรามองให้ลึกลงไปจากคำพูดของทั้ง Scheduler และจีฮยอนเอง ความใจร้ายของคนเขียนบทมีเหตุผลสนับสนุนที่ดีพอสมควร ถามว่าสมเหตุผลสอดคล้องกับการเดินเรื่องที่ผ่านมาตลอด 19 ตอนมั้ย อาจจะไม่ใช่ตอนจบที่สมเหตุสมผลที่สุด แต่โซฮยอนคยองให้เหตุผลสนับสนุนสิ่งที่เกิดขึ้นในตอน 20 ไว้ได้ดีมาก พูดอีกอย่างก็คือ มีบางอารมณ์ที่รู้สึกว่าละคร 19 ตอนแรกกับตอน 20 มันเป็นคนละเรื่องเดียวกัน แต่ละครตอน 20 เพียงตอนเดียว ให้คติสอนใจเราไว้มากเหลือเกิน เริ่มจากคำพูดของ Scheduler ที่บอกว่า การตายของจีฮยอนเป็นชะตาชีวิตที่ถูกกำหนดเอาไว้ตั้งแต่วันที่เธอเกิดแล้ว ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงมันได้ นั่นเลย สัจธรรมชีวิต ถ้าเริ่มต้นมองจุดนี้ให้เป็นฐานแล้ว แทนที่เราจะมองว่าไม่ยุติธรรมที่จีฮยอนพยายามอย่างหนักเพื่อให้ฟื้นคืนมาอีกครั้งแต่กลับต้องมาตาย เราก็มองได้อีกอย่างว่า 49 วันของจีฮยอน คือกำไรชีวิตต่างหาก จีฮยอนมีโอกาสที่พิเศษกว่าคนอื่นเพื่อช่วยเหลือใครหลายๆ คน และได้แก้ไขสิ่งที่ผิดให้เป็นถูก พร้อมๆ กับที่เธอเองก็เติบโตขึ้นมาก ลองคิดดูว่าถ้าเธอไม่มี 49 วันนี้แล้วจู่ๆ Scheduler ก็โผล่มาพาเธอไปขึ้นลิฟต์ตามปกติ มันก็โหดร้ายไปไม่น้อยกว่ากันเลย

โซฮยอนคยองเขียนให้จีฮยอนรับมือกับสภาพการณ์ตรงนี้ได้ดีมาก ทั้งสิ่งพูดกับ Scheduler  เมื่อเขาบอกให้เธอโกรธ (จีฮยอนถามกลับว่า โกรธใคร แล้วถึงเธอโกรธหรืออ้อนวอนแค่ไหนมันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ นับเป็นการแสดงถึงการเติบโตทางความความคิดของจีฮยอนได้เยี่ยมยอด) หรือสิ่งที่เธอพูดกับอีคยอง

ถ้าฉันไม่ได้เดินทางตลอด 49 วันนี้ บริษัทของพ่อคงตกอยู่ในมือคังมินโฮ และฉันคงเสียสติจากความเจ็บปวดที่ถูกคู่หมั้นและเพื่อนหักหลัง เป็นไปได้ว่าชะตาชีวิตกำหนดให้ฉันฆ่าตัวตายจากอาการช็อกนั่น แต่เพราะ 49 วันของฉัน ฉันสามารถได้รับความรักจากคนอย่างคัง ฉันสามารถรัก สามารถปกป้องบริษัทของพ่อ และสามารถมองย้อนกลับไปถึงชีวิตที่ฉันเคยใช้ จริงๆ แล้วฉันรู้สึกซาบซึ้งใจ เพราะถ้าฉันตายโดยไม่รู้อะไรเลย ฉันคงใช้ชีวิตจอมปลอมไปจนตาย

นอกจากนี้ การตายของจีฮยอนยังกลายเป็นบทเรียนชีวิตให้กับฮันคังและอีคยอง บทสนทนาตอนจบของคนทั้งคู่ที่ยืนอยู่ต่อหน้าต้นไม้สองต้นที่ฝังจีฮยอนและอีซูเอาไว้งดงามมาก เป็นฉากที่งดงามทั้งภาพและคำบรรยาย ชีวิตที่พิเศษของจีฮยอนชี้ให้เราเห็นว่าเธอโชคดีขนาดไหนที่มีโอกาสแก้ไขและทำทุกสิ่งที่เธออยากทำก่อนจากไป ซึ่งในความเป็นจริงน้อยคนนักที่จะมีโอกาสทำแบบนั้น มันเลยสะท้อนเป็นคติเตือนใจคังและอีคยอง รวมถึงคนนับล้าน (ถึงมั้ย) ที่ดูละครเรื่องนี้อยู่ด้วยว่า ให้ใช้ชีวิตทุกวันอย่างเต็มที่เหมือนเป็นวันสุดท้ายของชีวิต

อีคยอง: จีฮยอน ฮันคังยุ่งกับการทำงาน และตามที่เธอขอไว้ เขาเป็นเพื่อนที่ดีกับฉันมาก เพราะบุคลิกที่สดใสและสายสัมพันธ์ที่เธอสร้างไว้กับคนอื่นระหว่างที่อยู่กับฉัน ฉันจึงสามารถปรับตัวได้ดี
คัง: จีฮยอน แม้ว่าคนเรารู้ว่าพวกเขาจะต้องตาย แต่พวกเขาใช้ชีวิตราวกับไม่รู้ เพราะ 49 วันของเธอ ฉันจึงใช้ชีวิตเหมือนกับเป็นช่วง 49 วัน เพราะฉันได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งอย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นถ้าเราไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ ที่ตรงนี้เป็นที่อยู่ของบุคคลสำคัญที่สุดในชีวิตเราสองคน
อีคยอง: ที่ตรงนี้คือบุคคลสองคนที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตเราและจากไปอย่างสวยงาม
คัง: เพราะการเดินทาง 49 วันที่เราร่วมเดินไปกับเขาทั้งสอง
อีคยอง: เราจึงใช้ชีวิตในวันนี้อย่างมีค่า เฉกเช่นกับมันเป็นวันสุดท้ายของเรา
คัง: จีฮยอน เพราะฉันได้พบเธอ
อีคยอง: อีซู เพราะฉันได้พบเธอ
คัง: ฉันมีความสุข
อีคยอง: ฉันมีความสุข

เซอร์ไพรส์เรื่องแรกจบไปด้วยความเครียด ยังมีเซอร์ไพรส์อีกหนึ่งเรื่องที่อยากพูดถึง นั่นคือการเปิดเผยว่าอีคยองและจีฮยอนเป็นพี่น้องกัน การหักมุมประเด็นนี้อาจจะไม่ทำให้ผู้คนเซ็งจิตเท่ากับประเด็นแรก แต่ก็น่าจะทำให้คนจำนวนไม่น้อยเกาหัวแกรกๆ กันไปเหมือนกัน ว่าจู่ๆ คนเขียนบทโยนมุขนี้มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยได้อย่างไร

แต่ในความเป็นจริง ไม่ใช่อีกนั่นแหละ มีบล็อกเกอร์คนหนึ่งตั้งข้อสังเกตเอาไว้มาตั้งแต่ต้นๆ แล้วถึงเรื่องนี้ และได้ชี้ให้เห็นถึงคำบอกใบ้ที่คนเขียนบททิ้งไว้เป็นระยะๆ แม้ว่าจะน้อยนิดและนานๆ จะโผล่มาทีก็ตาม ขออนุญาตหยิบยกทฤษฎีของคุณ blue ณ บล็อก electric ground มาไขข้อข้องใจให้ฟังก็แล้วกัน

จุดแรกเกิดขึ้นในตอนที่ 6 จากคำพูดที่แม่ของจีฮยอนพูดกับสามีตอนอยู่ที่โรงพยาบาล เธอเลือกใช้คำพูดว่า ถ้าพระเจ้ามีจริงและพระองค์ทรงมีมโนธรรม พระองค์คงไม่พราก “ลูกที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว” (하나 남은 자식) ของเราไป คุณ blue บอกว่าจุดนี้ทำให้เธอฉุกคิดว่าถ้าจีฮยอนเป็นลูกคนเดียวจริง คำพูดที่คนทั่วไปเลือกใช้น่าจะเป็น 하나뿐인 자식 (ลูกเพียงคนเดียว) หรือ 하나밖에 없는 자식 (ลูกที่มีอยู่เพียงคนเดียว) มากกว่า

จุดที่สองคืออาการแพ้ซุปกระดูกวัว มีอยู่ตอนนึงมีคนพูดขึ้นมาว่าแม่ของจีฮยอนกินซุปกระดูกวัวไม่ได้ (จำไม่ได้แน่นอนว่าเป็นแม่บ้านที่บ้านจีฮยอน จีฮยอน หรือแม่จีฮยอนเองที่พูด) ขณะที่ร่างกายอีคยองก็รับซุปกระดูกวัวไม่ได้ เห็นได้จากวันที่จีฮยอน ซึ่งชอบซุปกระดูกวัวมากเหมือนพ่อ กินซุปเข้าไปเยอะมากขณะอยู่ในร่างอีคยอง แล้วพอจีฮยอนออกจากร่าง อีคยองก็อาเจียนอย่างหนักจนต้องไปหาหมอ

จุดที่สามคือนกหวีดที่ทั้งจีฮยอนและอีคยองมี คุณ blue บอกว่าเป็นไปได้ว่าพ่อมอบนกหวีดไว้ให้กับทั้งสองพี่น้อง

จุดต่อมาคือการพูดถึง “น้อง” ของอีคยอง ครั้งแรกในตอนที่ 15 อีคยองเล่าให้คุณหมอฟังว่าเธอถูกทิ้งอยู่ที่สถานีชุนชอนตอน 5 ขวบพร้อมกับเป้ซึ่งใส่ของที่เธอชอบเอาไว้ หลายคนเข้าใจผิดไปว่าอีคยองพูดถึงน้องชาย แต่จริงๆ แล้วเธอพูดแค่ว่า “น้อง” โดยใช้คำว่า 동생 (ทงแซง) เท่านั้นโดยไม่ได้ระบุเพศว่าหญิงหรือชาย

ครั้งถัดมาที่อีคยองพูดถึงน้องคือตอนที่ 18 ครั้งนี้เธอพูดชัดเจนว่า นัมดงแซง หรือน้องชาย ฟังแล้วขัดกับทฤษฎีใช่มั้ย แต่คุณ blue สันนิษฐานว่ามีความเป็นไปได้ที่อีคยองถูกลักพาตัวไปโดยคนที่อยากมีลูกเป็นของตัวเอง และพอพวกเขามีลูกตัวเองก็เลยทอดทิ้งเด็กที่ลักพาตัวมาซึ่งก็คืออีคยอง (ประเด็นนี้พอได้ดูเฉลยแล้ว คิดต่างจากคุณ blue เล็กน้อย ฝนว่าคนลักพาตัวไปน่าจะหวังเรียกค่าไถ่มากกว่า แต่พอไม่ได้ก็เลยทิ้งเด็ก) [ความคิดเห็นเพิ่มเติมอ่านได้ที่คอมเมนต์ด้านล่างนะคะ ขอบคุณความเห็นจากทุกๆ ท่านที่ช่วยกันแย้งเข้ามาด้วยค่ะ ถกเถียงกันอย่างสร้างสรรค์แบบนี้กระตุ้นรอยหยักในสมองดีค่ะ ^^]

คำใบ้สุดท้ายที่ทำให้คุณ blue เชื่อในทฤษฎีตัวเองก็คือการที่จีฮยอนไม่ยอมให้ Scheduler บอกว่าน้ำตาสองหยดสุดท้ายมาจากใคร คุณ blue บอกว่าการทำให้เรื่องนี้เป็นความลับหมายความว่าเจ้าของน้ำตาทั้งสองหยดอาจจะไม่ใช่คนที่เราเดาได้อย่างชัดเจน (ในเวลานั้นคือซออูและอีคยอง)

เป็นไงล่ะ ต้องชมคนเขียนบทที่แฝงคำใบ้เล็กๆ เอาไว้ได้อย่างแนบเนียน (เกินไปมั้ย) แต่ขอชมความสามารถของคนจับผิดมากกว่า เก่งมากจริงๆ แล้วไม่ใช่เพิ่งมามองย้อนกลับไปตอนรู้ความจริงด้วยนะ คุณ blue ตั้งข้อสังเกตไว้ตั้งแต่แม่จีฮยอนพูดประโยคนั้นประโยคเดียวจริงๆ สุดยอดมั่กๆ เจ้าค่า

อ่านโพสต์นี้จบ หวังว่าแฟนๆ 49 Days คงจะหายโกรธคุณโซฮยอนคยองลงไปบ้าง ข้าพเจ้าขอยกให้เธอเป็นหนึ่งในนักเขียนที่จะจับตามองซีรีส์เรื่องต่อไป เพราะชอบใจกับการคิดนอกกรอบของเธอเหลือเกิน

(ขอขอบคุณข้อมูลจาก dramabeans.com และ blue1004.wordpress.com)

Categories: k-drama Tags:
  1. ่jin
    May 21, 2011 at 12:01 pm

    สุดยอดอะ จบโอเคเลยนะ ชอบมาก

  2. กุ้งแห้ง
    May 21, 2011 at 1:28 pm

    49 วันของจีฮยอน ทำให้เธอและเราที่เป็นคนดูได้เห็นว่าจิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง
    ทำให้กลับมานั่งคิดดูว่าเรากำลังทำร้ายความรู้สึกใครโดยที่เราไม่รู้สึกตัวบ้างหรือเปล่า
    ทำให้เห็นคุณค่าของเวลา ที่รู้ล่ะว่ามันสำคัญแต่ไม่ตระหนักและก็ลืมบ่อยๆ
    49 วันแห่งการดิ้นรนของจีฮยอนเพื่อจะสอนใจคนดูอย่างเราๆ นั่นเอง

    5 ปีของท่านยมทูตเตือนใจเราว่าให้คิดก่อนพูด เพราะเราอาจไม่มีโอกาสได้แก้ไขคำพูดของเราอีกเลย
    5 ปีชีวิตของอีคยองบอกเราว่าไม่ควรยึดติดกับอดีต เพราะมันคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว

    คงเป็นฉากจบที่ถือว่าดีมากๆ อีกเรื่องหนึ่ง

    • Conankung
      May 21, 2011 at 7:11 pm

      ชอบการสรุปของจารย์จัง
      สั้นๆ ได้ใจความครบถ้วน อิอิ

  3. Amorn
    May 21, 2011 at 2:05 pm

    รู้สึกดีใจที่มีคนอื่นที่คิดเหมือนกัน ชอบละครเรื่องนี้มาก รู้สึกว่าคนเขียนบทเก่งมาก (มีคนอื่นอีกหลายคนไม่ชอบตอนจบแบบนี้)
    คนเราชอบดูละครอาจเป็นเพราะชีวิตจริงดูยากลำบากมากกว่า หลายๆคน อยากลืมความเป็นจริง จึงหันไปดูละครซี่งตัวเอกสวยหล่อ มีความเป็นอยู่ที่ดีเลิศ ตอนจบเหมือนเทพนิยาย แต่เมื่อดูจบ ก็จะหันไปดูเรื่องอื่นต่อ ไม่หันมาดูตัวเอง เมื่อจบแบบนี้เราจะสะดุดใจ หันมาดูตนเอง ว่าเราใช้ชีวิตอย่างประมาทไปหรือเปล่า ถ้าเราต้องตายไป เราทำให้คนที่เรารักและรักเรา มีความสุขแล้วหรือยัง

    -Scheduler ไม่น่าจะแปลว่าผู้กำหนดชะตาชีวิต เพราะคนอื่นต่างหากกำหนด Scheduler แค่รับเอาตารางเวลาว่าใครถึงเวลาตายในช่วงนั้นๆ แล้วจัดการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดเวลา โดยปกติไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ กรณีที่ไม่เป็นไปตามกำหนดเช่น การพยายามฆ่าตัวตายของอีคยอง ทำให้จีฮยอน ต้องตายก่อนเวลาถือเป็นกรณีที่ไม่เป็นไปตามกำหนด Scheduler ก็ต้องทำหน้าที่ เหตุการณ์ 49 วัน จึงเกิดเพื่อให้โอกาสที่จะฟื้นคืนชีวิตอีกครั้ง และทำให้ตารางกลับเป็นดังเดิม
    -ภายใน 49 วัน หากได้น้ำตา 3 หยด ก็จะฟื้นคืนชีวิต แต่ไม่ได้บอกว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน คนคิดเอาเองว่าต้องได้อยู่อีกนาน หากบอกว่าไม่ยุติธรรมเลวร้าย ก็ขอให้มองโลกในความเ็ป็นจริงมีคนมากมายเกิดมาแค่ไม่ก็นาทีก็ตาย มีคนอยู่เกินร้อยปีก็มาก ล้่วนเป็นไปตามกรรมหรือโชคชะตา ซึ่งโชคชะตา (คนเขียนบท) ก็ไม่ได้โหดร้ายกับจีฮยอนจนเกินไป หากเกิดอุบัติเหตุจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่ฟื้นอีก ถึงจะเรียกว่าใจร้าย แต่นี่เธอได้โอกาส ที่คนอื่นอีกมากไม่อาจได้รับ นั่นคือรู้ว่าตนเองจะตายเมื่อไรและได้แก้ไขและทำทุกอย่างได้อย่างงดงาม
    เรามาดูเป็นคนๆ ไป
    -พ่อกับแม่จีฮยอน พ่อนั้นแค่หวังว่าให้ลูกสาวฟื้นคืนมายิ้มให้สักครั้งก็พอ ส่วนแม่แค่อยากกินข้าวกัน 3 คน ซึ่งความปรารถนาทั้ง 2 อย่าง ก็เป็นความจริง จีฮยอนได้ทำให้ท่านมีความสุขโดยบอกว่า “เธอดีใจและมีความสุขมากที่สุดที่ได้เกิดเป็นลูกพ่อ/แม่” ลองคิดดูมีพ่อแม่กี่คนที่ได้ฟังถ้อยคำนี้ ใครที่ยังมีพ่อแม่ ยังไม่สายที่จะพูดถ้อยคำนี้ ให้พ่อแม่ดีใจ คนเขียนยังได้มอบลูกสาวคนโตที่คิดว่าตายแล้วมาเยียวยาหัวใจทั้ง 2 คน ด้วย
    -ฮันคัง เขาแอบรักจีฮยอนมานานแล้ว แต่ต้องเก็บความรักไว้ เพราะเธอมีแฟนแล้ว เหตุการณ์ 49 วัน ทำให้เขาได้มีโอกาสได้รักกัน แม้ว่าสุดท้ายไม่ได้อยู่ด้วยกัน จีฮยอนยังได้ไปปิคนิกกับฮันคังในฐานะคนรักสักครั้งหนึ่ง
    -อีคยอง เหตุการณ์ 49 วัน ทำให้เธอได้มีโอกาสเยียวยาหัวใจที่แตกสลาย เธอได้กลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง ก่อนที่จีฮยอนจะจากไป เธอยังได้โอกาสทำอาหารร่วมกับน้องสาว เมื่อเธอย้อนคิดถึง คงเป็นความทรงจำที่ดี เธอยังได้ครอบครัวกลับมาอีกครั้ง ได้มีโอกาสที่จะรู้ว่ายีซู รักเธอมากแค่ไหน ตอนที่เธอถือสมุดบัญชี แล้วมีเสียงยีซู บอกว่า “บนโลกนี้เธอคือบุคคลที่มีค่าที่สุดสำหรับเขา” ดูแล้วผมร้องไห้เลย ใครที่มีคนรัก เคยบอกหรือได้ยินถ้อยคำนี้ที่ออกมาจากใจหรือเปล่า ทั้ง 2 คน รักกัน แต่มีเรื่องไม่เข้าใจ ไม่ได้พูดคุยให้เข้าใจ จนสายไป ดีที่มีโอกาสปรับความเข้าใจในที่สุด คนอื่นๆ อย่ารอให้สายไปเพราะท่านอาจไม่มีโอกาสอีกครั้งนึงก็ได้
    -จีฮยอน ในงานศพของเธอมีคนเสียน้ำตาให้กับเธออย่างจริงใจมากมาย ลองคิดดูว่า ถ้าเป็นเราจะมีคนเสียน้ำตาอย่างจริงใจซักกี่คน

    ในชีวิตเราไม่ว่าเพื่อนหรือคนรัก ต้องมีสักวันที่ต้องจากกัน หากคนที่จากไปเป็นเรา เราได้เตรียมการให้คนที่เหลืออยู่มีความสุขหรือยัง ได้ทำทุกอย่างที่อยากทำ พูดสิ่งที่อยากพูดให้ฟัง หรือยัง

    -ผมชื่นชมคุณ blue ในเรื่องข้อสังเกตและทฤษฎีของเขา เก่งมากครับ ผมไม่เห็นด้วยกับคุณฝนที่ว่า “คนลักพาตัวไปน่าจะหวังเรียกค่าไถ่มากกว่า แต่พอไม่ได้ก็เลยทิ้งเด็ก” ถ้าดูตอนที่จีฮยอน วิ่งไป แล้วแม่ออกไปตาม มีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้างๆ อีคยอง สายตาของเธอเมื่อมองมาเป็นสายตาของคนที่รักเด็ก ไม่ได้หวังเงิน เพราะตอนที่แม่วิ่งไปไม่ได้เอากระเป๋าติดไปด้วย ถ้าเธอหวังเงินทองต้องขโมยกระเป๋าไปด้วยแน่ ตอนที่อีคยองหายไป จีฮยอน โตหลายขวบแล้ว ที่อีคยอง บอกว่าแม่บอกว่าจะไปให้นมน้องชาย แล้วทิ้งเธอไป แม่คนที่เธอบอกต้องเป็นผู้หญิงคนที่มองเธอคนนั้นแน่ หลังจากที่อีคยองหายไป แม่เล่าว่า มีคนอื่นอ้างว่าจะพาเธอกลับมาได้มาเอาเงินไป 2 ครั้ง แต่ก็ไม่พบเธอ และภายหลังก็ไม่ได้ติดต่อมา ในเวปปอปคอร์นมีคนบอกว่า พ่อแม่จีฮยอนรวยทำไมไม่ตามหาลูกที่หายไป คิดว่าตอนนั้นอาจยังไม่รวย และตามหาแล้วแต่ไม่พบมากกว่า

    -สรุปผมชื่นชมคุณโซฮยอนคยอง คนเขียนบท วางโครงเรื่องดีมาก จบลงอย่างงดงาม ได้ข้อคิดที่ดีมากมาย

    อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตทุกวันอย่างเต็มที่เหมือนเป็นวันสุดท้ายของชีวิต

    • Conankung
      May 21, 2011 at 7:15 pm

      ขอบคุณคุณ Amorn สำหรับการขยายความเพิ่มเติมเรื่องการลักพาตัวค่ะ ฝนจำคำพูดแม่นางเอกผิดไปเอง แหะแหะ แล้วก็ไม่ได้สังเกตเรื่องที่ไม่ได้เอากระเป๋าเงินไปด้วย งั้นคงน่าจะเป็นอย่างที่คุณ blue สันนิษฐานไว้จริงๆ

  4. Amorn
    May 21, 2011 at 2:21 pm

    เพิ่มเติมอีกหน่อย ตอนจบ ฮันคังและอีคยอง ยืนอยู่ด้วยกัน คนเขียนปล่อยให้เราไปจินตนาการต่อเอาเองว่าทั้ง 2 คนจะลงเอยยังไง

    จีฮยอนขอให้ฮันคังเป็นเพื่อนที่ดีต่ออีคยองเหมือนกับที่เป็นเพื่อนที่ดีของเธอ ที่จริงคงอยากบอกว่าให้รักอีคยองเหมือนกับที่รักเธอมากกว่า เพราะที่ว่าเป็นเพื่อนแต่ฮันคังก็รักจีฮยอนมาตลอดและภายหลังเธอก็รู้ว่าเขารักเธอ แต่ความรักบังคับใจกันไม่ได้ จึงต้องขอแบบนั้น

    ฮันคังและอีคยองต่างเป็นคนดื้นรั้นและยืนกรานทั้งคู่ 5 ปีที่ยีซูจากไปอีคยองยังทำใจไม่ได้ ส่วนฮันคังแม้จีฮยอนจะเป็นเจ้าหญิงนิทรานานแค่ไหน เขาก็ยังคนรักเธอเสมอ แล้วจีฮยอนจากไปเพียง 2 ปี ฮันคังและอีคยอง ทั้ง 2 คนจะลืมอดีตหมดและกลายมาเป็นคนรักกัน ก็คงไม่สมจริงมากไปมั้ง แต่ต่อไปก็ไม่แน่ เพราะไม่ได้พูดว่าพยายามแล้วแต่เป็นได้แค่เพื่อนสักหน่อย

    หลายคนบอกว่าจบแบบไม่มีใครสมหวังไม่ดีเลย ผมว่าจบแบบนี้สมเหตุสมผลมากกว่า ^^

    • ja
      May 25, 2011 at 10:47 am

      อันนี้ไม่เห็นด้วย และคิดว่าตอนจบคนเขียนบทไม่ได้ต้องการให้จินตนาการต่อว่า อีคยองกับคังจะรักกัน
      เพราะเดี๋ยวอีคยองก็ย้ายไปทำงานที่อื่น ไม่ได้ทำงานร้านคังแล้ว สองคนนี้ก็จะไม่ได้ใกล้ชิดกัน โอกาสที่จะพัฒนา
      ความสัมพันธ์ก็จะน้อยลงไปอีก เหมือนเป็นการบอกคนดูแบบอ้อมๆแล้ว

      • Jewel
        January 17, 2012 at 1:22 pm

        เราว่าโอกาสพัฒนามีเหมือนกันนะ ถึงแม้จะไม่ได้ทำงานที่ร้านคัง เห็นด้วยกับคุณ Amorn

  5. ่jae
    May 21, 2011 at 4:18 pm

    เราว่าจบแบบนี้มันก้อเ็ป็นสิ่งที่สมควรจะเป็นนะ..มันคงเป็นไปไม่ได้ถ้าจะให้คนตาย 5 ปีพื้นมาเป็นคนแล้วมาอยู่กับอีคยองอีก
    แล้วมันจะเป็นไปได้หรอ..ถ้าเกิดจีฮยอนจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากอุบัติเหตุนอกจากการนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราแต่จีฮยอนก้อยังได้มีปฎิหารและได้โอกาส 49 วันเพื่อช่วยพ่อแม่และได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคนรอบข้าง..ได้มีโอกาสพื้นขึ้นมาถึงแม้จะตายอีกต่อจากนั้น..ยังได้มีโอกาสพูดและพบเจอกันคนที่ตัวเองรักแค่นี้ก้อถือว่าปฎิหารแล้วอ่ะ..มันสมเหตุสมผลแล้ว..ขอบอกว่าชอบมากถึงแม้จะจบแบบไม่ถูกใจคนดูหลายๆคน

  6. Love~forever..
    May 24, 2011 at 4:15 pm

    เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณพี่ฝนมากๆเลยนะคะ
    ต้องกลับไปตั้งใจดูอีกรอบนึงก่อนค่ะถึงจะวิจารณ์ได้ 55
    คุณblueนี่เก่งจริงๆนะคะ ถ้าไม่ได้เค้าคงทำให้คนดูอย่างเราๆงงและเคืองคนเขียนบทอีกนาน 55
    คุณโซฮยอนคยองทำโครงเรื่องออกมาได้ดีและสวยงามก็จริง
    แต่สำหรับ20ตอนสิ่งที่ออกมาอาจจะคงจะยังไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่นัก
    ถ้ามีอีกซัก5ตอนบทสรุปอาจจะเข้าใจได้ง่ายและสวยงามกว่านี้ก็ได้นะคะ

  7. patter
    May 25, 2011 at 11:02 am

    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เตือนสติของคนเรามากๆเลย เพราะคนเรามักจะไม่คิดถึงวันตายอยู่แล้ว แต่ทุกคนก็รู้ว่าเกิดมาแล้วก็จะต้องตายไป และจะมีใครบ้างที่ทำทุกอย่างโดยตั้งใจและคิดเหมือว้ตนเองจะต้องตายหรือวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต

  8. Palmmina
    May 25, 2011 at 6:06 pm

    ดูจบแล้วรู้สึกโล่งอกมาก แบบเฮ้อคลี่คลายซะที คนเขียนสร้างปมไว้มากมาย
    จนทำให้คนดูคิดตาม(ทันบ้างไม่ทันบ้าง)จนรู้สึกอึดอัดไปกับปัญหาของตัวละครแต่ละคนมาก
    แต่สุดท้ายทุกอย่างก็คลี่คลาย ปมทั้งหลายถูกแก้อย่างเหมาะสม ทำให้คนดูเดาตอนจบไม่ได้นี่ล่ะทำให้ตื่นเต้น
    ทำให้เราไหวเอนไปกับอารมณ์ของตัวละคร ว่าจะเป็นไปยังไงกันแน่จะแก้ปัญหาของตนเองอย่างไร
    แม้จะไม่แฮปปี้ แต่ดูแล้วจบอย่างสมบูรณ์แบบมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ

    ปล.เรื่องนี้ให้ข้อคิดเยอะๆๆๆมากๆคุ้มค่ากับการเสียเวลาดูจนจบ !

  9. LinGmnZ
    May 27, 2011 at 2:52 pm

    ครั้งถัดมาที่อีคยองพูดถึงน้องคือตอนที่ 18 ครั้งนี้เธอพูดชัดเจนว่า นัมดงแซง หรือน้องชาย ฟังแล้วขัดกับทฤษฎีใช่มั้ย แต่คุณ blue สันนิษฐานว่ามีความเป็นไปได้ที่อีคยองถูกลักพาตัวไปโดยคนที่อยากมีลูกเป็นของตัวเอง และพอพวกเขามีลูกตัวเองก็เลยทอดทิ้งเด็กที่ลักพาตัวมาซึ่งก็คืออีคยอง (ประเด็นนี้พอได้ดูเฉลยแล้ว คิดต่างจากคุณ blue เล็กน้อย ฝนว่าคนลักพาตัวไปน่าจะหวังเรียกค่าไถ่มากกว่า แต่พอไม่ได้ก็เลยทิ้งเด็ก)

    จะขอแย้งตอนนี้ครับ คือแม่บอกกับฮันคังว่ามีคนมาขอค่าตามหาตัวทุกอาทิตย์แล้วก็ไม่ได้อะไรเลย แล้วก็มาอีก แล้วก็ไม่ได้อะไรเลย แล้วก็หายไปติดต่อไปไม่ได้ คือพวกที่มาขอเงินค่าตามหาอีคยองคือพวกที่ลักพาตัวไปนั่นเอง : )

    • Conankung
      May 27, 2011 at 3:24 pm

      ชี้แจงไปในคอมเมนต์ข้างบนแล้วค่ะว่าจำคำพูดของแม่จีฮยอนที่พูดกับฮันคังผิดไป แม่ไม่ได้ถูกเรียกเงินค่าไถ่ แต่ถูกหลอกให้จ่ายเงินรางวัลในการตามหาอีคยองแต่ก็ไม่ได้ตัวลูกกลับคืน แต่ละครก็ไม่ได้อธิบายต่อให้ชัดเจนว่าพวกที่ลักพาตัวอีคยองไปนั้นประสงค์ดีหรือประสงค์ร้ายยังไง แล้วคนที่มาหลอกเอาเงินแม่ไปนั้นเป็นใคร ก็ถือเป็นประเด็นที่เปิดให้คาดเดา สันนิษฐาน และจินตนาการกันไปแล้วแต่ความพึงพอใจของผู้ชมค่ะ

  10. rabbit
    June 5, 2011 at 2:07 pm

    ลุ้นมาทั้งเรื่อง เอ็นดูนางเอกมาก แต่ตอนจบมันตึ่งโป๊ะจริงๆ

    แต่ก็เห็นด้วย มันมีแง่คิด สอนเรื่องการใช้ชีวิตให้คุ้มค่า และไม่จบแบบง่ายๆ เหมือนที่คิดไว้ ทำให้ทึ่งผู้แต่ง เจ๋งมากค่ะ

    แต่ตอนนี้เพิ่งดูจบ มึนหัวอยู่ T.T สงสารจีฮยอน

  11. Failer
    August 8, 2011 at 8:00 pm

    แม้ว่าจะจบได้สมเหตุสมผลหรือเหมาะสมเพียงใด

    แต่มันก็ยังทำให้รู้สึกแย่….. T.T 😦

  12. ลีชิน
    January 10, 2012 at 8:29 pm

    จากที่ผมดูนั้น น้ำตาหยดนึงไม่ได้มาจากซงยีคยองนะครับ เพราะท่านยมก็บอกแล้วว่าน้ำตาจะไม่ได้จากญาติพี่น้อง แล้วท่านยมก็บอกในตอนจบว่าน้ำตาหยดสุดท้ายนั้น มาจากอินจองครับ แต่ดูแล้วก็ซึ้งมากๆนะครัย

  13. Kneazle
    February 10, 2012 at 8:34 pm

    เพิ่งได้ดูจบ ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกก ค่ะ
    เป็นซีรี่ย์ที่ลุ้นมาก ดูจบตอนแล้วต้องดูตอนต่อไปทันที
    ให้แง่คิดชีวิตดีมากค่ะ
    นักแสดงหล่อสวยทุกคน
    โดยเฉพาะ พี่ฮันคัง เราชอบมาก
    แม้ตอนจบจะเศร้า แต่เราว่าก็จบดีนะค่ะ (แต่จะดีกว่าถ้าจีฮยอนไม่ต้องตาย)
    รู้สึกว่าจบแบบไม่ค้างคา ฮันคังรู้ว่าจีฮยอนจำได้ แต่ไม่บอก เหตุผลที่ทำไปเพราะรักถึงไม่อยากทำให้เจ็บปวด และฮันคังก็ดำเนินชีวิตต่อไปได้
    ประทับใจมากๆๆๆค่ะ ซีรีย์เรื่องนี้ หนังจบ อารมณ์ไม่จบจริงๆ ยังเพ้อนึกถึงเรื่องนี้อีกหลายวัน กรี้ดๆๆๆ
    ปล. ชอบฮันคังตอนอยู่กะซองยีคยองที่โดนจีฮยอนสิง น่ารักม๊ากกกกก และ
    ชอบท่านยม ตอนอยู่กะจีฮยอนจริงๆ น่ารักสุดๆไปเลยค่ะ ตอนเถียงกัน ฮี่ๆๆ

  14. October 18, 2013 at 11:02 am

    おすすめ 財布 レディース

  1. No trackbacks yet.

Leave a comment